กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยวันศุกร์ว่ารัฐบาลอเมริกันได้ตั้งข้อหาชาวอิหร่านที่เชื่อมโยงกับแผนที่ต้องสงสัยว่ามาจากกองทัพอิหร่านในความพยายามสังหารว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์

ในแถลงการณ์ กระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า ชายที่ชื่อ ฟาร์ฮาด ชาเครี ซึ่งได้รับคำสั่งจากหน่วยทหาร Revolutionary Guards Corps หรือ IRGC ของอิหร่าน ระบุกับเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายว่าเขาถูกมอบหมายให้วางแผนสังหารทรัมป์ ในวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา

กระทรวงฯ ระบุว่าชาเครีทำงานให้กับ IRGC และอาศัยอยู่ที่กรุงเตหะราน โดยเขาอพยพมาสหรัฐฯ ตั้งเเต่เด็ก และถูกเนรเทศออกจากไปราว ๆ 16 ปีก่อน หลังถูกตัดสินว่ามีความผิดจากคดีปล้น และต้องติดคุกในสหรัฐฯ ตามรายงานของรอยเตอร์

เจ้าหน้าที่กล่าวว่าชาเครี ยังคงรักษาสายสัมพันธ์กับเครือข่ายอาชญากร ที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานต่าง ๆ โดยรัฐบาลเตหะราน เช่นการสอดเเนมและวางแผนสังหาร

ในตอนที่ถูกสอบสวน ชาเครีกล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อเดือนกันยายน IRGC สั่งให้เขายุติภารกิจอื่น ๆ ที่ทำอยู่ และต้องวางแผนให้เสร็จภายใน 7 วัน เพื่อที่จะสอดเเนมและปลิดชีพทรัมป์ ตามรายงานของเอพี ที่อ้างเอกสารของคดีซึ่งถูกเปิดผนึกที่ศาลในแมนฮัตตัน

เจ้าหน้าที่อ้างอิงคำพูดของชาเครี ที่กล่าวว่า “เราใช้เงินไปมาก” และ “เงินไม่ใช้ประเด็น”

เขาบอกกับเจ้าหน้าที่สืบสวนว่า ถ้าไม่สามารถวางแผนสำเร็จภายใน 7 วัน ก็สามารถรอไปหลังเลือกตั้งก่อน เพราะเชื่อว่าทรัมป์น่าจะแพ้เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และน่าจะถูกสังหารได้ง่ายกว่า หากสถานการณ์ออกมาเช่นนั้น

แถลงการณ์บอกด้วยว่าทางการสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อหาบุคคลอีกสองรายจากการมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนสังหารนักข่าว มาซิห์ อะลินีจาด สัญชาติอเมริกันเชื้อสายอิหร่านที่นิวยอร์ก

ทนายของผู้ต้องสงสัยสองราย ไม่ได้ตอบกลับการขอความเห็นของนักข่าวเอพี ขณะที่เจ้าหน้าที่ของอิหร่านที่สหประชาชาติปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น

เอพีรายงานเช่นกันว่าชาเครีอยู่ในอิหร่านเวลานี้ และไม่ได้ถูกจับกุมตัว ส่วนนักข่าว อะลินีจาด ซึ่งอยู่ที่กรุงเบอร์ลินเวลานี้กล่าวว่าเธอรู้สึก “ช็อกมาก”

อะลินีจาด ซึ่งเดินทางไปเยอรมนีเพื่อร่วมพิธีรำลึกการครบรอบเหตุการณ์ทลายกำเเพงเบอร์ลิน กล่าวว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม เเล้วที่เธอตกเป็นเป้าลอบสังหาร

เอพีรายงานว่าชาเครี ถือสัญชาติอัฟกัน เอกสารต่อศาลระบุว่าเขาเปิดเผยรายละเอียดของแผนลอบสังหารในการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับกับเจ้าหน้าที่หน่วงงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ ขณะที่อยู่ในกรุงเตหะราน

ชาเครีบอกถึงสาเหตุที่เขาให้ความร่วมมือกับทางการอเมริกัน เพราะอยากช่วยให้ผู้ที่อยู่ในขบวนการรายหนึ่งได้รับการลดหย่อนโทษคุมขังในสหรัฐฯ

ข่าวนี้เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งสะท้อนถึงสิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางกล่าวว่าเป็นความพยายามอย่างต่อเนื่องของอิหร่านที่พุ่งเป้าไปยังเจ้าหน้าที่อเมริกัน ซึ่งรวมถึงทรัมป์บนแผ่นดินสหรัฐฯ

นอกจากนี้อิหร่านยังดำเนินการจารกรรมข้อมูลอีเมลที่เป็นของคณะทำงานหาเสียงของทรัมป์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเเทรกเเซงการเลือกตั้งประธานาธิดีสหรัฐฯ

เจ้าหน้าที่ข่าวกรองกล่าวว่าอิหร่านไม่ต้องการให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีอีกสมัย โดยมองว่าเขาจะทำให้ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านมีมากขึ้น

ในสมัยเเรกของการบริหารประเทศของเขา รัฐบาลทรัมป์ล้มเลิกความตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านและสั่งสังหารนายพลกาสเซม สุไลมานี ของอิหร่าน ซึ่งทำให้ผู้นำอิหร่านประกาศว่าจะล้างเเค้น

โฆษกของทรัมป์ สตีเวน เชิง กล่าวว่าทรัมป์รับทราบข่าวการวางแผนลอบสังหารครั้งนี้ และว่าไม่มีอะไรที่จะบั่นทอนการกลับไปทำเนียบขาวของเขาและนำสันติสุขมาสู่โลก

• ที่มา: VOAThai